เจาะลึก 3 ฟีเจอร์เด็ด โดนใจเกมเมอร์ สาย Windows 11

หลายคนน่าจะรู้แล้วว่า Microsoft ประกาศเปิดตัว Windows 11 อย่างเป็นทางการไปแล้ว แต่เหมือนก่อนหน้านี้ สื่อหลายสื่อรวมทั้ง Microsoft เองก็ไปให้ความสำคัญกับเรื่องของ TPM 2.0 จนเราอาจลืมฟีเจอร์ที่สำคัญของ Windows 11 ไป

หากย้อนกลับไปใน Windows 10 นั้นมีคุณลักษณะการเล่นเกมใหม่ ๆ มากมาย เช่นแอป Game Bar ที่ช่วยในการแคปภาพหรือบันทึกวิดีโอ การ Live Stream และอื่นๆ อีกมากมาย แต่ใน Windows 11 เหมือน Microsoft จะให้ความสำคัญกับการเล่นเกมมากขึ้นจนอาจทำให้บางคนต้องไปซื้อคอมใหม่เพื่อใช้งาน Windows 11 กันเลย (หากไม่ได้รองรับ TPM 2.0)

3 ฟีเจอร์นั้นคืออะไร

1. Auto HDR

HDR ย่อมาจาก High Dynamic Range เป็นเทคโนโลยีที่จะช่วยให้เกมมีสีที่สดใสและสมจริงยิ่งขึ้น และทำให้ฉากต่างๆ ดูดีขึ้นไปอีกขั้นครับ แตกต่างจาก SDR หรือ Standard Dynamic Range ที่เป็นมาตรฐานตัวเก่าที่หลายเกมใช้ เพื่อให้เข้าใจง่าย เรื่องนี้ต้องเล่าย้อนกลับไปนิดนึง โดยในปี 2018 นักพัฒนาเกมประกาศเปิดใช้งาน HDR

สำหรับเกมบนคอนโซลแต่มันดันรองรับเกมได้เพียงไม่กี่เกมเท่านั้น Microsoft จึงหยิบ HDR มาพัฒนาเป็น Auto HDR และเปิดตัวบนเกมคอนโซลของตัวเองอย่าง Xbox Series X/S นั่นแปลว่าเราสามารถเปิด HDR ได้กับทุกเกมบน Xbox แม้เกมนั้นจะไม่ได้ถูกตั้งค่า HDR มาจากผู้พัฒนาก็ตาม

และ Auto HDR ที่จะเปิดใช้งานบน Windows 11 เหมือนกับ Auto HDR ใน Xbox ซึ่งจะใช้แมชชีนเลิร์นนิงเพื่อเพิ่มการรองรับ HDR ให้กับเกมรุ่นเก่าที่ใช้ SDR อยู่ ทำให้เกม SDR หลายพันเกม ภาพจะสวยขึ้น หากเล่นบน Windows 11 ครับ

2. DirectStorage ใน Windows 11

ส่วนตัวต้องยอมรับว่า อันนี้เป็นฟีเจอร์ที่ค่อนข้างชอบเป็นพิเศษ โดยตามชื่อเลย เป็นการส่งข้อมูลเกมตรง ๆ จาก SSD ไปยังการ์ดจอ โดยไม่ต้องผ่าน CPU ครับ หลายคนอาจงงว่าทำได้ยังไง

อธิบายแบบนี้ครับ ปกติแล้วเนี่ย เวลาที่เราเปิดเกมขึ้นมาเล่น จะมีการบีบอัดข้อมูลของไฟล์เกมจาก SSD แล้วส่งไปเก็บอยู่ที่ RAM ชั่วคราว เพื่อรอการส่งต่อข้อมูลไปยัง CPU เมื่อถึงคิว ไฟล์เกมจะถูกส่งต่อไป CPU เพื่อแตกไฟล์ เมื่อแตกไฟล์แล้ว จะส่งกลับมาที่ RAM อีกครั้งหนึ่งเพื่อรอส่งต่อไปให้กับ GPU เพื่อใช้สำหรับการเรนเดอร์ภาพ

หากใครงงว่า ทำไมไม่ส่งไปที่ GPU ตรง ๆ เลยล่ะ ก็เพราะเมื่อก่อนนู้นนนน เรายังไม่มีการ์ดจอแยกครับ ข้อมูลจึงถูกส่งไปที่ประมวลที่ CPU อย่างเดียว แต่พอมีการ์ดจอแยก แล้ว แต่ขั้นตอนแบบนี้ก็ยังคงอยู่เพราะเป็นมาตรฐานของมัน

แต่ DirectStorage ได้ลดขั้นตอนยุ่งยากนี้ออกไปครับ โดยจะส่งข้อมูลเกมที่บีบอัดไฟล์แล้วไปยัง GPU ตรง ๆ เลย หากใช้งานกับ SSD ด้วยแล้ว จะส่งผลให้โหลดและคลายการบีบอัดข้อมูลได้อย่างรวดเร็ว นั่นแปลว่าเกมจะโหลดเร็วขึ้นหรือเปิดได้เกือบจะทันทีเลยนั่นเอง

ทั้งนี้ DirectStorage นั้นถูกใช้ใน Xbox มาก่อนหน้านี้แล้วเช่นกัน ซึ่ง Microsoft มีแผนจะนำฟีเจอร์นี้มาใส่ใน Windows 11 ด้วยครับ แต่หากใครกำลังลุ้นว่าจะมีใน Windows 10 ด้วยไหม อันนี้เสียใจด้วย เหมือนจะมีข่าวยืนยันแล้วนะครับว่า Windows 11 Only ครับ

3. Xbox Game For PC

จริงแอป Xbox Game สำหรับ PC นั้นมีอยู่แล้วใน Windows Store เราต้องเข้าไปกดติดตั้งเองครับ แต่ว่า Windows 11 นั้นจะติดตั้งแอปดังกล่าวมาให้เลย แต่หากใครไม่ใช้และไม่ชอบ ก็สามารถลบออกได้ครับ

โดยหากใครสมัครใช้งาน Xbox Game pass Ultimate ไว้ (บริการรายเดือนของ Xbox ที่ให้เราเล่นเกมได้กว่าร้อยเกม) ไว้ก็สามารถเล่นเกมผ่านคลาวด์ของ Microsoft ได้ ไม่ต้องติดตั้งเกมลงในเครื่องครับ นั่นทำให้เราเล่นเกมผ่านเครื่องที่ไหนก็ได้ ไม่ว่าจะเป็นซูเปอร์คอมพิวเตอร์หรือแล็ปท็อปในสำนักงาน อาศัยเพียงแค่เบราว์เซอร์และเน็ตที่เสถียรก็พอครับ แต่ว่าตอนนี้ยังไม่รองรับในประเทศไทย

และทั้งหมดนี้ คือ 3 ฟีเจอร์เล่นเกมหลัก ๆ ที่จะมาใน Windows 11 ด้วย Auto HDR, DirectStorage และ Game Pass โดย Microsoft กำลังทำให้ Windows 11 เป็นพื้นที่ ที่สะดวกสำหรับการเล่นเกมอย่างมากเลย